Immor สำหรับข้อต่อ: สมุนไพรต้านข้อเสื่อม กระดูกพรุน ปวดข้อ ปวดเข่า

Immor สำหรับข้อต่อ: สมุนไพรต้านข้อเสื่อม กระดูกพรุน ปวดข้อ ปวดเข่า

ปวดข้อปวดเข่า ข้อเข่ามีเสียงดัง สัญญาณอันตราย

อาการปวดข้อ ปวดเข่า เวลาขยับหรือลุกเดินจะมีเสียงก๊อบแก็บ อาจเกิดมาจากความเสื่อมของกระดูกและข้อต่อ  รวมถึงน้ำหล่อเลี้ยงในข้อต่อแห้ง เลยทำให้เกิดการเสียดสีกัน ทำให้เกิดอาการอักเสบบวม หากปล่อยทิ้งไว้อาการอาจจะทวีความรุนแรงมากขึ้น ซึ่งอาจต้องรักษาด้วยการฉีดน้ำเลี้ยงไขข้อเทียม หรือรายที่อาการหนักมาก ๆ อาจจะต้องถึงขั้นผ่าตัดข้อเข่าหรือหรืออาจต้องใส่ข้อเข่าเทียมกันเลยทีเดียว

 

แนวทางในการรักษาข้อเสื่อม

กรณีที่มีอาการปวดที่เกิดจากอุบัติเหตุ ทำให้หมอนรองกระดูกในข้อเข่าฉีกขาด ควรพบแพทย์เพื่อทำการรักษา แต่ถ้าเกิดจากอาการข้อเข่าเสื่อม ต้องมาดูระดับความรุนแรงของอาการ ซึ่งบางรายไม่รุนแรงมากอาจจะใช้วิธีกายภาพบำบัด หรือรับประทานยาเพื่อรักษาอาการข้อเข่าเสื่อม หรือถ้าเป็นมาก ๆ อาจจะต้องรักษาด้วยวิธีการผ่าตัดหรือใส่ข้อเข่าเทียม

สั่งซื้อตอนนี้

งาดำ…กับปัญหาข้อเสื่อม

การบริโภคงาดำให้เป็นอาหารและเป็นยานั้น เกิดขึ้นมาต่อเนื่องเป็นระยะเวลาหลายพันปี ภายในเมล็ดงาดำนั้นมีองค์ประกอบสำคัญคือ น้ำมัน 44-60 % โดยส่วนใหญ่แล้วงาดำจะทำหน้าที่หลักในการใช้ประกอบอาหาร แต่ในปัจจุบันนิยมนำมาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางและรับประทานเป็นอาหารเสริมเพื่อสุขภาพมากขึ้น เนื่องจากคุณประโยชน์ของเมล็ดงาดำเม็ดเล็กๆ ที่มีมากมายเกินตัว

 

ในปัจจุบันมีงานวิจัยมากมายเกี่ยวกับสารในเมล็ดงาดำ พบว่าประกอบด้วยกรดไขมัน เช่น Oleic acid, Linoleic acid, Palmitic acid, Stearic acid, นอกจากนี้ยังมี สารกลุ่ม Lignan, ชื่อ Sesamin, Sesamol,Sesamolin และสารอื่นๆ ที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดการอักเสบ ป้องกันการเสื่อมของกระดูกและช่วยสร้างน้ำหล่อเลี้ยงให้แก่ข้อกระดูก ลดอาการปวดต่าง ๆ ได้ดี  ซึ่งในเมล็ด “งาดำ” มีสารอาหารที่จำเป็นอยู่มากมาย ได้แก่

Immor สำหรับข้อต่อ: สมุนไพรต้านข้อเสื่อม กระดูกพรุน ปวดข้อ ปวดเข่า

  1. มีโปรตีนสูง
  2. กากใยสูง ซึ่งจำเป็นในการส่งเสริมการขับถ่ายและขจัดสารพิษ
  3. คาร์โบไฮเดรตชนิดดี การเปลี่ยนแป้งให้เป็นน้ำตาลเพื่อเป็นพลังงานให้แก่ร่างกายจากการย่อยคาร์โบไฮเดรตนั้น ถ้าการย่อยเป็นน้ำตาลเร็วเกินไป ตับอ่อนจะทำงานหนัก และสารอินซูลิน (ฮอร์โมนที่ควบคุมน้ำตาล)
  4. วิตามิน B รวมสูง โดยเฉพาะวิตามิน B6 ซึ่งวิตามิน B เป็นกลุ่มสารอาหารที่บำรุงและปกป้องสมองและระบบประสาท ทำให้ทำงานได้อย่างปกติ ชะลอความเสื่อมของระบบ
  5. น้ำมันงาดำมีความสมดุลของโอเมก้า 3-6-9
  6. สารอาหารจำเป็นอื่นๆ เช่น แมงกานีส เหล็ก ทองแดง แคลเซียม แมกนีเซียม ซิ้งค์ ฟอสฟอรัส และไทรนิน เป็นต้น
  7. เป็นแหล่งสำคัญของทริปโทแพน หรือวิตามิน E ที่มีส่วนช่วยในระบบฮอร์โมน บำรุงผมและผิวให้อ่อนเยาว์นุ่มนวลอยู่เสมอ
  8. สารเฉพาะตัว จุดเด่นของงาดำนั้นมีสารสำคัญ 3 ชนิดที่ได้รับการวิจัย และศึกษาอย่างสูงในปัจจุบัน
  • สารเซซามีน (Sesamin) สารเซซาโมลิน
  • (Sesamolin หรือ D-Sesami)
  • สารซาเซมอล (Sasemol)

ซึ่ง 3 สารสำคัญนี้มีในเฉพาะงาดำเท่านั้น ไม่สามารถหาได้ในแหล่งอื่น เป็นสารต้านอนุมูลอิสระอย่างดี มากกว่าสารอื่นๆ หลายเท่า มีผลการใช้ และการป้องกัน และส่งเสริมอวัยวะภายในโดยเฉพาะหัวใจ สมอง ปอด ตับ และไต อีกทั้งดีต่อผิวและเส้นผมอีกด้วย
การรับประทานงาดำเป็นอาหารเสริมนั้นควรอยู่ในรูปของน้ำมันสกัดเย็น และบรรจุในแคปซูลที่ป้องกันแสงและอากาศเพื่อไม่ให้ทำปฏิกิริยากับน้ำมัน เพราะสารเหล่านี้มีสภาพคงตัวและละลายได้ดีในรูปของน้ำมัน

 

น้ำมันงาดำ ได้ถูกยกย่องว่าเป็นอาหารเสริมจำพวก Anti-osteoarthritis (สารต้านโรคกระดูกอักเสบ) และ Anti-osteoporosis (สารต้านโรคกระดูกเสื่อม) มีงานวิจัยมากมายทั้งในประเทศและต่างประเทศพบว่า น้ำมันงาดำอุดมไปด้วยเซซามิน และสารอาหารอื่น ๆ มากมาย ช่วยต้านการอักเสบ เพิ่มน้ำหล่อเลี้ยงในข้อเข่า ลดอาการอักเสบ บวม ของบริเวณข้อเข่า และข้อต่อส่วนอื่น ๆ ได้เป็นอย่างดี

น้ำมันงาดำเป็นน้ำมันชนิดดีที่ร่างกายสามารถนำไปสร้างคอเลสเตอรอลแบบที่ดี และจะถูกนำไปแปลงสภาพเพื่อสร้างกระดูกอ่อนและน้ำหล่อเลี้ยงใหม่ให้แก่ข้อต่ออีกด้วย

ทานน้ำมันงาดำ…อย่างไรให้ได้ผลดี?

  • กรณีทานเพื่อบำรุงร่างกายและเพื่อป้องกัน หรือมีอาการไม่มาก แนะนำทานวันละ 2 แคปซูล หลังอาหารเช้า 1 แคปซูล หลังอาหารเย็นหรือก่อนนอน 1 แคปซูล
  • กรณีที่มีอาการมากๆ แนะนำทานวันละ 4 แคปซูล หลังอาหารเช้า 2 แคปซูล หลังอาหารเย็นหรือก่อนนอน 2 แคปซูล
สั่งซื้อตอนนี้

Immor สำหรับข้อต่อ: สมุนไพรต้านข้อเสื่อม กระดูกพรุน ปวดข้อ ปวดเข่า

นอกจากนั้น ยังสามารถรับประทานได้อีกหลายแบบ เพื่อจุดประสงค์ต่างๆกันได้อีกด้วย เช่น

  1. กินพร้อมอาหาร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการดูดซึมของทั้งน้ำมันและอาหาร เนื่องจากวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิดละลายในกรดไขมันจำเป็นเพื่อให้ร่างกายสามารถนำไปใช้ได้ อีกทั้งการกินไปพร้อมอาหารนี้ทำให้การย่อยง่ายขึ้น เหมาะสำหรับผู้ต้องการกินเพื่อบำรุง ผู้สูงอายุ ผู้มีปัญหาเกี่ยวกับระบบทางเดินอาหาร เด็กเล็ก และวัยรุ่น
  2. กินในขณะท้องว่าง ซึ่งจะมีผลเกี่ยวกับการขับของเสียและสารพิษออกจากเซลล์และอวัยวะต่างๆ โดยเฉพาะสมอง รวมถึงตับ ไต ลำไส้ ซึ่งเป็นอวัยวะในระบบขับถ่ายและกำจัดสารพิษของร่างกาย (Detoxification System) ซึ่งเหมาะสำหรับบุคคลทั่วไปที่ต้องการเน้นจุดประสงค์นี้ บำรุงผิวพรรณ กันการเสื่อมของเส้นผม ท้องผูก สารพิษตกค้างสูง ระบบน้ำเหลืองเสีย พิษในเลือดมาก มีโรคเรื้อรังมานาน กินยาแผนปัจจุบันมาเยอะ และอื่นๆ
  3. กินพร้อมกับยาแผนปัจจุบัน เพื่อบรรเทาอาการผลข้างเคียงของการใช้ยา ซึ่งเป็นที่รู้กันว่ายาแผนปัจจุบันนั้นมีสารก่อพิษในร่างกายและมีผลข้างเคียงต่อระบบภายใน การกินน้ำมันงาดำสกัดเย็น 1,000 ถึง 4,000 มิลลิกรัมพร้อมกับการกินยาแผนปัจจุบันจะช่วยปกป้องอวัยวะต่างๆ เช่น สมอง หัวใจ ตับ ไต และระบบย่อยอาหาร
  4. กิน 2,000 ถึง 4,000 มิลลิกรัมในขณะท้องว่างก่อนนอน เพื่อส่งเสริมการนอนและผ่อนคลายทั้งร่างกายและจิตใจ ซึ่งเกิดจากความตึงเครียดในชีวิตประจำวัน ทั้งนี้ถ้ามีการกินในลักษณะนี้อยู่เป็นประจำพร้อมสมุนไพรจำพวกลาเวนเดอร์และคาโมมายล์ จะทำให้สภาวะจิตใจ อารมณ์ และการนอนดีขึ้น
  5. กินในขณะที่มีอาการปวดหรืออักเสบสูง เช่น ปวดข้อ มีไข้สูง ปวดแดง ร้อน (อาการ) โดยกิน 2,000 มิลลิกรัมทุกๆ 4 ชั่วโมง จนอาการดีขึ้นแล้วจึงลดปริมาณลง

เมื่อมีการเริ่มรับประทานอาหารเสริมหรือยาแผนปัจจุบันตัวใหม่โดยเฉพาะในปริมาณที่สูง ร่างกายอาจจะต้องใช้เวลาปรับตัวในระยะหนึ่ง ซึ่งมิได้หมายความว่าเราไม่ถูกหรือมีอาการแพ้อาหารเสริมตัวนั้นๆ โดยอาการก็อย่างเช่น ท้องอืด ท้องเฟ้อ มึนหัว คัน ง่วงนอน และอ่อนเพลีย

 

อาการเหล่านี้อาจจะเป็นเพราะร่างกายพยายามขับพิษหรือปรับตัวซึ่งเกิดจากปฏิกิริยาของอาหารเสริมตัวใหม่ที่เรานำเข้าไปในร่างกาย โดยปกติแล้วก็แนะนำให้ลดปริมาณของอาหารเสริมนั้นลงจนอาการเหล่านี้หายไปแล้วจึงเพิ่มปริมาณขึ้นเพื่อผลสูงสุดในการใช้ ในทางการแพทย์แล้วทั้งในอดีตจนถึงปัจจุบันไม่มีการพบว่ามีผู้แพ้เมล็ดงาดำจากการบริโภค ยกเว้นเมล็ดงาดำนั้นมีสารปนเปื้อนหรือมีเชื้อราซึ่งนำไปสู่การก่อโรคในอนาคต

สั่งซื้อตอนนี้

Leave a Reply

;-) :| :x :twisted: :smile: :shock: :sad: :roll: :razz: :oops: :o :mrgreen: :lol: :idea: :grin: :evil: :cry: :cool: :arrow: :???: :?: :!: